ตั้งราคายังไงให้โดน
ตลาดของงานฝีมือมีสองกลุ่ม คือ กลุ่มตลาดบน และกลุ่มตลาดทั่วไป กลุ่มตลาดบน จะเหมือนการเสพงานศิลป์ ไม่มีราคากลาง เพราะชิ้นงานกลุ่มนี้พึงพอใจที่รสนิยม ความสุขผู้ซื้ออยู่ที่การได้ครอบครองสะสม สินค้ามักจะมีความประณีต สวยงาม มีเอกลักษณ์ เป็นกลุ่มที่ผู้ผลิตมือใหม่อาจจะเข้าถึงได้ไม่รวดเร็ว เพราะต้องใช้เวลาในการสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือจนเป็นที่ยอมรับ แต่หากเข้ากลุ่มนี้ได้.. ทำงานก็จะมีความสุข สนุกและมีกำลังใจในการสร้างผลงานโดยไม่ต้องห่วงรายได้ค่ะ…น่าเข้าเน๊อะ.. ^_^ ตลาดกลุ่มทั่วไป กว้างกว่า แต่การแข่งขันรุนแรงกว่า และมักจะถูกลอกเลียนแบบได้เร็ว เกิดสงครามราคากันมากกว่ากลุ่มตลาดบน อุปสรรคของงานฝีมือที่สำคัญคือ “เวลา” นอกจากความคิดสร้างสรรค์แล้ว งานฝีมือมักจะต้องใช้เวลาในการผลิตงาน การจะทำธุรกิจจากงานฝีมือจึงมองข้ามเรื่องของ “เวลา” ไปไม่ได้เลย การตั้งราคาเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลกับการตัดสินใจของลูกค้าในกลุ่มตลาดทั่วไป จะขายเท่าไหร่จึงจะเป็นราคาที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้ซื้อ และเป็นราคาที่ผู้ผลิตสามารถได้กำไรที่สุด จุดพอดีขึ้นกับความพอใจของแต่ละฝ่าย ไม่มีกำหนดตายตัว แต่ราคาควรคิดกำไรเป็นเปอร์เซ็นต์จากราคาขาย ไม่ใช่จากราคาทุนตามที่หลายคนเข้าใจ เพราะราคาขายเป็นตัวเลขที่เราใช้สื่อสารกับผู้ซื้อไม่ใช่ราคาทุน การคิดจากราคาขายจะทำให้เราใช้กลยุทธการตลาดมาร่วมได้ง่าย เช่นจัดโปรโมชั่น, มอบส่วนลด หรือแม้กระทั่งเตรียมสำหรับการขายแบบมีตัวแทนจำหน่ายหรือราคาส่ง ปัจจัยที่เราควรนำมาคิดราคาสินค้าควรรอบคอบ และคาดการณ์เผื่อไว้ล่วงหน้าให้ดี นอกจากจะคิดเฉพาะวัตถุดิบแล้ว ต้องไม่ลืมเวลา, ค่าแรง, การขนส่ง, บรรจุภัณฑ์หีบห่อ ฯลฯ นอกจากนั้นแล้ว ต้องไม่ลืมเปรียบเทียบกับคู่แข่งหรือผู้อื่นที่ขายสินค้าในกลุ่มเดียวกัน เพื่อวางตำแหน่งสินค้าของเราไว้ในจุดที่คิดว่าน่าสนใจที่สุด และกำไรได้เป็นที่พอใจ หากคุณรักการวาดภาพ […]